ไฟล์เสียงรายการสู่อีมานที่มั่นคง ทางรายการวิทยุคลื่นคุณธรรม ปี 2546-47 โดย ชัยคฺริฎอ อะหมัด สมะดี

สู่อีมานที่มั่นคง 1

การกล่าวอัลลอฮุอักบัร ดุอาอ์อิสติฟตาหฺ อัลฟาติหะฮฺ

ละหมาดอย่างมีคุชูอฺ 1

การกล่าว อะอูซุบิลลาฮิมินัชชัยฏอน,
การขอความคุ้มครองให้พ้นจากชัยฏอน

ละหมาดอย่างมีคุชูอฺ 2

ซูเราะฮฺ อัลฟาติหะฮฺ อายะฮฺ 1-3
بِسْمِ اللَّـهِ الرَّحْمَـٰنِ الرَّحِيمِ ١
 الْحَمْدُ لِلَّـهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ ٢
 الرَّحْمَـٰنِ الرَّحِيمِ ٣

ละหมาดอย่างมีคุชูอฺ 3

ซูเราะฮฺ อัลฟาติหะฮฺ อายะฮฺ 4
﴿ مَٰلِكِ يَوۡمِ ٱلدِّينِ ٤ ﴾ 
“ผู้ทรงสิทธิ์ในวันแห่งการตอบแทน”

ละหมาดอย่างมีคุชูอฺ 4

ซูเราะฮฺ อัลฟาติหะฮฺ อายะฮฺ 5
إِيَّاكَ نَعۡبُدُ وَإِيَّاكَ نَسۡتَعِينُ  
เพื่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลาเท่านั้นที่ฉันกำลังยืนทำอิบาดะฮฺเพื่อพระองค์เท่านั้นที่ฉันจะขอความช่วยเหลือ

ละหมาดอย่างมีคุชูอฺ 5

ซูเราะฮฺ อัลฟาติหะฮฺ อายะฮฺ 6-7
﴿ ٱهۡدِنَا ٱلصِّرَٰطَ ٱلۡمُسۡتَقِيمَ ٦ صِرَٰطَ ٱلَّذِينَ أَنۡعَمۡتَ عَلَيۡهِمۡ غَيۡرِ ٱلۡمَغۡضُوبِ عَلَيۡهِمۡ وَلَا ٱلضَّآلِّينَ٧ ﴾ [الفاتحة: ٦،  ٧]  
ความว่า “โปรดชี้แนะพวกเราสู่แนวทางอันเที่ยงตรงด้วยเถิด แนวทางของบรรดาผู้ที่พระองค์ได้โปรดปรานพวกเขา มิใช่แนวทางของบรรดาผู้ที่ถูกโกรธกริ้วและมิใช่แนวทางของบรรดาผู้ที่หลงผิด”

Rida ahmad samadi

ละหมาดอย่างมีคุชูอฺ 6

การศรัทธาต่ออัลลอฮฺและการญิฮาด การปล่อยทาส จงช่วยเหลือคนที่ทำงานในสังคม ระงับความเลวร้ายของตน
http://www.islaminthailand.org/dp6/story/5727

การกระทำที่ประเสริฐยิ่ง (สู่อีมานที่มั่นคง 1)

“ท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด, จงติดตามความชั่วด้วยการทำความดี และจงคบหาผู้คนด้วยมารยาทที่ดีงาม”
http://www.islaminthailand.org/dp6/story/6017

จงยำเกรงอัลลอฮฺไม่ว่าจะอยู่ที่ใด (สู่อีมานที่มั่นคง 26)

นบีมุฮัมมัด กล่าว่า “ท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด, จงติดตามความชั่วด้วยการทำความดี และจงคบหาผู้คนด้วยมารยาทที่ดีงาม” (หะดีษหะสัน บันทึกโดยอัตติรมิซี)

จงทำความดีติดตามความชั่ว (สู่อีมานที่มั่นคง 27)

ไฟล์เสียงรายการสู่อีมานที่มั่นคง ทางรายการวิทยุคลื่นคุณธรรม ปี 2546-47 
โดย ชัยคฺริฎอ อะหมัด สมะดี 
www.islaminthailand.org/dp6/?q=page/3772

ความสำคัญของมัสญิด (สู่อีมานที่มั่นคง 2)

ผู้ศรัทธานั้นในชีวิตของเขาจะเป็นฤดูแห่งการทำอิบาดะฮฺอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาแห่งการสะสมผลบุญและอะมัลศอลิหฺเพื่อเป็นเสบียงในวันกิยามะฮฺ วันแห่งการตอบแทนที่เราจะไปพบอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา

เรากำลังพูดถึงการที่มุสลิมหรือมุอ์มินจะพบการการทดสอบหรือมุศีบะฮฺต่างๆ ที่เราจะเห็นได้เป็นปกติในชีวิตของเรา เพราะเราทำใจแล้วว่าชีวิตของเราจะไม่เป็นชีวิตที่มีแต่ความสุขอยู่เสมอ แต่ต้องมีการทดสอบ มีความยากลำบาก ความยากจน ความเจ็บป่วยและเรื่องราวที่จะทำให้เราไม่มีความสุขสบายในบางช่วงบางคราว

https://www.islaminthailand.org/dp8/story/6040

อัลเกาะฎออฺและอัลเกาะดัร (สู่อีมานที่มั่นคง 28)

ชีวิตของมุสลิมนั้นขึ้นอยู่กับจริยธรรมของเขาซึ่งจริยธรรมของเขาก็ขึ้นอยู่กับอีหม่านของเขา ดังนั้นการที่เราเป็นมุอ์มินก็ต้องผูกพันกับจริยธรรมและมารยาท ซึ่งมารยาทอันมีคุณค่า มีความสวยงาม มีความยิ่งใหญ่ในชีวิตของเราก็คือ การที่มุสลิมหรือมุอ์มินนั้นมีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา พูดในสิ่งที่เป็นสัจธรรมและอยู่กับสัจธรรม ดังที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสไว้ในสูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ ว่า
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงยำเกรงอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา และจงอยู่ร่วมกับบรรดาผู้สัจจะ” (อัต-เตาะบะฮฺ : 119)
-- อ่านต่อ -- https://www.islaminthailand.org/dp8/story/5981

- สู่อีมานที่มั่นคง -
https://www.islaminthailand.org/dp8/strong-imaan

การพูดสัจธรรม (สู่อีมานที่มั่นคง 22)

“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺ   และจงพูดคำพูดที่ดี ที่ถูกต้อง แล้วอัลลอฮฺ   จะทำให้การการกระทำของพวกท่านเป็นการกระทำที่ดีงาม ที่ถูกต้อง และจะให้อภัยแก่พวกท่าน...” (อัลอะหฺซาบ : 71)

    อุละมาอ์ได้อธิบายอายะฮฺนี้ว่า “การที่มุอ์มินนั้นจะยำเกรงต่ออัลลอฮฺและพูดคำพูดที่ถูกต้องนั้น จะส่งผลให้การกระทำของถูกต้องตามความยำเกรงและมีคำพูดที่ถูกต้อง แต่เมื่อมุอ์มินไม่ยำเกรงอัลลอฮฺและไม่พูดในสิ่งที่ถูกต้อง ความประพฤติประพฤติของเขาก็ย่อมอยู่ในสภาพที่ไม่ถูกต้อง”

เพราะการที่เรายำเกรงอัลลอฮฺ จะส่งผลให้เรามีความระมัดระวังในคำพูดและการประพฤติ เพราะคำพูดและการประพฤตินั้นขึ้นอยู่ที่ว่าเรายึดมาตรฐานอะไรในชีวิตของเรา บางคนยึดมาตรฐานในกฎหมายสากล โดยกล่าวกันว่า “เราต้องระวังไม่ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายนะ อะไรที่จะทำให้เราต้องประสบกับอันตรายก็อย่าทำนะ” ฉะนั้นคำพูดและการประพฤติของเขาก็จะขึ้นอยู่ที่ว่าเขากลัวหรือระมัดระวังสิ่งใดในชีวิตของเขา

https://www.islaminthailand.org/dp8/story/5988

ความยำเกรงอัลลอฮฺกับการพูด (สู่อีมานที่มั่นคง 23)

การที่ประชาชาติอิสลามนั้นเป็นกลาง หมายถึง เป็นประชาชาติที่ยึดมั่นในความถูกต้อง ยึดมั่นในพระมหาคัมภีร์ที่มาจากพระผู้เป็นเจ้า ยึดมั่นในสัจธรรมที่มาจากพระองค์อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา
การที่มุอ์มินนั้นเป็นกลาง หมายถึง มุอ์มินต้องเข้าใจว่าอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ใช้ให้เขากระทำอะไร และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ใช้ให้เขาทำตัวอย่างไรต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น 
แต่ถ้าหากว่าบางกรณีเกิดขึ้นแล้วเขาวางตัวเป็นกลางโดยไม่นำหลักการศาสนาอิสลามมาปฏิบัติ ยืนอยู่ในหนทางที่ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในกรณีหนึ่งกรณีใด ทั้งที่สัจธรรม ความจริงและความยุติธรรมนั้นอยู่ในฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ก็จะถือว่าการวางตัวเป็นกลางแบบนี้ เป็นการไม่ยอมรับในสัจธรรมหรือความจริง
https://www.islaminthailand.org/dp8/story/5997

อีมานกับการวางตัวเป็นกลาง (สู่อีมานที่มั่นคง 24)

ในบรรดาคุณลักษณะของหัวใจของมุอ์มินนั้น ซึ่งเป็นหัวใจที่ปราศจากโรคต่างๆ หัวใจอันบริสุทธิ์ หัวใจที่มีอีหม่านที่มั่นคงก็ยังมีลักษณะอันดีงามที่จะบ่งบอกว่าหัวใจเหล่านั้นเป็นหัวใจที่มีความสัมพันธ์กับพระผู้เป็นเจ้า มีอีหม่านที่มั่นคง นั่นคือ อัลยะกีน ความมั่นใจในพระผู้เป็นเจ้า การยืนหยัดในหนทางโดยที่ไม่มีความสงสัย อึดอัด นั่นคือหัวใจที่มุอ์มินต้องพยายามแสวงหา อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
 “แท้จริงนั้นในบรรดาชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน เป็นสัญญาณสำหรับบรรดาผู้ศรัทธา และในการที่อัลลอฮฺทรงกำเนิดสูเจ้าทั้งหลาย และทุกสิ่งบนแผ่นดินนี้เป็นสัญญาณสำหรับบรรดาผู้ที่มั่นใจ” (อัลญาษิยะฮฺ อายะฮฺที่ ๓-๔)

ผู้ที่มั่นใจนั้นจะมีอีหม่านที่มั่นคงต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา โดยไม่สงสัย เพราะฉะนั้นบรรดาอุละมาอ์จะอธิบายความหมายของคำว่า อีหม่าน คือการเชื่อมั่นโดยไม่สงสัย และการที่จะมียะกีนหรือความมั่นคง มั่นใจในอีหม่านนั้น เป็นเงื่อนไขที่สำคัญสำหรับอีหม่านที่เราต้องสะสมในหัวใจของเรา เพราะการสงสัยหรือการที่ไม่มั่นใจในความศรัทธานั้นจะทำให้อีหม่านของเราอยู่ในสภาพความเชื่อเหมือนกับความเชื่อของบรรดากุฟฟารหรือบรรดาผู้ปฏิเสธผู้สงสัยในอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา และการที่จะทำให้หัวใจของเรานั้นมีความมั่นใจ นั่นคือเป้าหมายที่มุอ์มินทุกคนต้องตั้งไว้ในอีหม่านของเขา
https://www.islaminthailand.org/dp8/node/6508

หัวใจที่มีความเชื่อมั่น (ยะกีน, สู่อีมานที่มั่นคง 40)

“พวกท่านทั้งหลายจงพยายามเร่งกระทำสิ่งที่เป็นคุณธรรมความดี ก่อนที่จะมีฟิตนะฮฺ หรือความยากลำบากในชีวิตของพวกท่านซึ่งเปรียบเสมือนความมืดที่จะมายังพวกท่าน แล้วคนหนึ่งจะอยู่ในยามเช้าในสภาพที่มีอีหม่านแต่เมื่อตกเย็นเขาจะกลายเป็นกาฟิร เป็นผู้เนรคุณหรือปฏิเสธ และคนหนึ่งที่ตอนกลางคืนเป็นมุอ์มิน แต่เมื่อถึงยามเช้าแล้วเขาจะกลายเป็นกาฟิร คนเหล่านี้จะขายศาสนาของเขาด้วยสิ่งที่ไม่มีคุณค่าในโลกนี้”
https://www.islaminthailand.org/dp8/story/6006

จงเร่งรีบขวนขวายอีมานที่มั่นคง ก่อนที่จะมีฟิตนะฮฺ (สู่อีมานที่มั่นคง 25)

การที่มุอ์มินจะประสบกับปัญหานั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่การที่มุอ์มินนั้นสามารถทำใจได้และกระทำสิ่งที่ไม่ขัดกับหลักการศาสนา นั่นคือกำไรใหญ่หลวงที่มุอ์มินจะได้ในชีวิตของเขา

ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้บอกไว้ว่า “ผลบุญอันใหญ่หลวงนั้นขึ้นอยู่กับการทดสอบอันใหญ่หลวง (การทดสอบยิ่งรุนแรง ผลบุญก็ยิ่งเพิ่มขึ้น) และแท้จริงนั้นหากว่าอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงรักบุคคลใดพระองค์ก็จะทรงทดสอบพวกเขา และบุคคลที่มีความพอใจเขาก็จะได้รับความพอใจ ส่วนคนที่จะไม่สบายใจหรือแสดงความไม่พอใจต่อการทดสอบนั้น เขาก็จะได้รับความไม่สบายใจ” (บันทึกโดยอัตติรมิซี โดยท่านกล่าวว่าเป็นหะดีษหะสัน)
https://www.islaminthailand.org/dp8/story/6087

การอดทนต่อบททดสอบและหวังในผลบุญ (สู่อีมานที่มั่นคง 29)

“ท่านนบีนั้นได้พูดกับเราในสองเรื่อง ฉันได้เห็นเรื่องหนึ่งปรากฏแล้ว และฉันกำลังรอเรื่องที่สองที่ยังไม่ปรากฏ
ท่านนบีได้บอกพวกเราว่า "อะมานะฮฺได้ลงมาอยู่ในรากของหัวใจผู้ศรัทธา"

อะมานะฮฺที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ประทานลงมาในหะดีษนี้ก็คือ อีหม่าน การปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ ดังที่พระองค์ตรัสว่า
“แท้จริงเราได้เสนออะมานะฮฺต่อชั้นฟ้า แผ่นดินและภูเขา แต่พวกมันปฏิเสธและกลัวที่จะแบกรับมัน มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ได้รับอะมานะฮฺจากเรา” (อัลอะหฺซาบ : ๗๒)
จากนั้นพระองค์ก็ประทานอัลกุรอานลงมา พวกเขาจึงศึกษาจากอัลกุรอานและสุนนะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
...อ่านต่อ... https://www.islaminthailand.org/dp8/story/6096

อะมานะฮฺจะถูกยก (สู่อีมานที่มั่นคง 30)

ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวไว้ว่า
ความว่า “ท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด, จงติดตามความชั่วด้วยการทำความดี และจงปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยมารยาทที่ดีงาม” (หะดีษหะสัน บันทึกโดยอัตติรมิซี)
https://www.islaminthailand.org/dp8/story/6106

จงปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยมารยาทที่ดี (สู่อีมานที่มั่นคง 31)

พี่น้องผู้ศรัทธาที่เคารพทั้งหลายครับ อัสสลามุอลัยกุมวะเราะหฺมะตุลลอฮิวะบะเราะกาตุฮฺ ในหลักการของศาสนาอัลอิสลามนั้นมุสลิมต้องมีมารยาทและจริยธรรมของเขาตามคำสั่งและคำห้ามของพระผู้เป็นเจ้า ดังที่นิสัย มารยาทและจริยธรรมของเรานั้นต้องสอดคล้องกับแนวทางของกิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
เราจะเห็นว่าศาสนาได้ผูกความศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันกิยามะฮฺและเรื่องอื่นๆ กับการที่มนุษย์นั้นจะต้องมีจริยธรรมและมารยาทที่มั่นคง
ในหะดีษที่บันทึกโดยอิมามอัลบุคอรีและมุสลิม ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า “ใครก็ตามที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา และวันสิ้นโลก ก็จงพูดแต่สิ่งที่ดี ไม่เช่นนั้นก็จงนิ่งเงียบ”..อ่านต่อ..
https://www.islaminthailand.org/dp8/story/6121

พูดดี...มีอีมาน (สู่อีมานที่มั่นคง 32)

ไฟล์เสียงจากการบรรยาย นะศีหัต การสอน และตอบปัญหา ของ เชคริฎอ อะหมัด สมะดี
http://www.islaminthailand.org