Played By Hermits&Jinn
เรื่องราวของชายผู้สูญเสียความเชื่อในตัวเพื่อนมนุษย์ ร้องบอกออกมาเป็นเพลง ถามหาเมืองแห่งพระเจ้า ยูโทเปียร์(โลกพระศรีอาร์น)

This song is about ......
The man who disappoint about Phony society in capital and life in darkest city.
Waiting for the Utopia

Utopia(โลกแห่งการปลดปล่อย)

Why, Why should i care them
Why, Why i use to fake my face
When they when i be with them, Any time
ทำไม ทำไมฉันต้องแคร์พวกเค้าด้วย
ทำไม ฉํนต้องปั้นหน้ายิ้ม เวลาที่อยู่กับพวกเค้าด้วย
ทุกครั้ง

Why, Why i can't be my mind
Why, Why i use to be best man
When they fuck-up on me, Any time 
ทำไม ทำไมฉันถึงเป็นตัวฉันไม่ได้
ทำไมฉันต้องเป็นคนที่ดี
เวลาที่เค้าทำนิสัยแย่ๆกับฉันหรือลับหลังฉัน ทุกๆครั้งไป

When, When i can be free
When, When i can get out from phony society
When the time
เมื่อไหร่ม เเมื่อไหร่ที่ฉันจะได้ปลดปล่อย
เมื่อไหร่ฉันจะหลุดจากสังคมเน่าเฟะจอมปลอม
เมื่อไหร่จะถึงเวลา

When, When i will met true friends
When, When i will met true heart
That we can trust each other For long time
เมื่อไหร่ฉันจะเจอคนดีๆ
เมื่อไร่ฉันจะเจอหัวใจ
หัวใจที่เต็มไปด้วยความเชื่อใจและปราศจากอคติ อยู่ด้วยกันได้ไปนานๆ

Cause now I live in
Fake society 
Wait 'till i found  
My Utopia
Wait till i found 
A land of god
A truly land
เพราะตอนนี้ฉันอยู่ในสังคมจอมปลอม
แต่ฉันก็ยังจะรอ รอจนกว่าฉันจะพบยูโทเปียร์
รอจนกว่าฉันจะพบ ดินแดงแห่งพระเจ้า
ดินแดนแห่งความสัตจริง

Utopia

Played By Hermits&Jinn
เรื่องราว ของชาย ผู้หนึ่ง บากบั่น ออกมา ตรากตรำ หางาน จากครอบ จากครัว พ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน เพื่อนฝูง

This song is about ......
A man who came from his home land for some reason,Work!!!
He always want to be there in his home w/ wife and Children. 


Whisper from the South  

When the train is pulling out.  ตอนที่รถไฟกำลังแล่น
I hear the Whisper from the south.  ฉันได้ยินเสียงกะซิบจากถิ่นเกิด
And he breeze come from my house.  และสายลมอุ่นที่พัดมาจากบ้านฉัน
But it can't stop me going outแต่มันไม่สามารถหยุดการเดินทางฉันได้หลอก
Oh i miss my land, Babe.   โถที่รัก ฉันคิดถึงบ้านเหลือเกิน
But life is carry on.   แต่ชีวิตมันก็ต้องวิ่งต่อไปของมัน
Many trouble must be clare out.   ปัญหาทุกๆอย่างต้องได้รับการสะสาง
Then i can back home.  หลังจากนั้นฉันจะกลับมาหาเธอ

Remember me my dear.  โปรดจำฉันไว้ที่รัก 
And the reason i must go out.  และเหตุผมที่ฉันต้องออกจากบ้าน
Please tell our children about.   ช่วยบอกเด็กๆด้วยว่า
Papa don't want aways from them.  คุณพ่อไม่อยากจากพวกเค้าไปหลอก
And remind remind them.  และคอยเตือนพวกเค้า
How dad love them.    ว่าฉันรักพวกเค้าแค่ไหน
More then any thing on earth.    มากกว่าทุกๆสิ่งบนโลกนี้

If i can back home, I will. ถ้าฉันมีโอกาศ ฉันจะกลับไป
Have a dinner with pretty wife.  จัดมื้อเย็นกับคุณภรรยาสุดสวย
Look at our children play around.  เฝ้ามองลูกๆของเราวิ่งเล่นรอบๆ 
Drink a couple glass of Beers.   ดื่มเบียร์ให้ชื่นใจสักแก้วสองแก้ว
Oh i miss my land, Babe. โถที่รัก ทำไมฉันจะคิดถึงบ้านหละ
But life is carry on. แต่ชีวิตมันก็ต้องวิ่งต่อไปของมัน
Many trouble must be clare out. ปัญหาทุกๆอย่างต้องได้รับการสะสาง
Then i can back home.  หลังจากนั้นฉันจะกลับมาหาเธอ



WhisperFromTheSouth

Played By Hermits&Jinn
เรื่องราวของคนรักที่ฝ่ายชายเป็นคริสเตียนฝ่ายหญิงเป็นมุสลิม รักกันท่ามกลางสงคราม ครูเสทครั้งที่สาม
เรื่องราวจริงๆที่เป็นแรงบรรดาลใจ : เมื่อตอนที่เราแต่งเพลงนี้เกิดการทะเลาะขึ้นระหว่างคนซูลูและคนไนจีเรียร์ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นปัญหาใหญ่ถึงขั้นว่ามีการทำลายทรัพสินและคร่าชีวิตกัน แล้วผมมีเพื่อนคนนึงเธอชื่อโรสเป็นคนไนจีเรียแต่งงานกับชายชาวซูลู เค้าทั้งสองต้องวิ่งหนีและหลบซ้อนตัวเพื่อหนีจากการฆ่าฟัน

Story behide the song - I wrote this song when I was in south Africa,johannesburg when they had a protest between Zulu and Nigeria.They'd burn other neighbourhood and try to kill another.
 (and some of my friend her name is rose she's a Nigeria and her husband is Zulu.They had to runaway and hiding from another Zulu guys)
This song is about ......
The Lover from the crusade war.
A man from Europe & Girl from another side of enemy.
They love each orther.



Lover of the War(คู่รักแห่งสงคราม)

เพลงนี้คือเรื่องราวของตัวละครสองตัวในสงครามครูเสท หนึ่งคือหญิงชาวมุสลิม หนึ่งคอนักรบคริสเตียน ผู้ไม่อาจเข้าใจภาษาของกันและกัน ผู้ไม่สนข้อกฏเกณใดๆ ผู้เป็นที่รักแห่งสงคราม   

In the middle of the war, I met you in the night 
make love you hour and so, and hold you all the night 
ท่ามกลางสงครามนั้น ฉันได้พบเธอกลางดึก
ร่วมสังวาศกับเธอพอชั่วยามหนึ่ง และกอดเธอไว้ทั้งราตรีกาล
  I don’t know the word you say, But sure we love each other
 Why i came here every night, To take you by my side 
ฉันไม่รู้ภาษาที่เธอพูด แต่ฉันรู้ว่าเรารักกันแค่ไหน
นั้นเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี้ทุกๆราตรี เพียงเพื่อได้กอดไออุ่นเธอไว้ข้างกาย  This war is nearly over , So this’s last killing field  
Then we can live together, My stranger from remote
 สงครามนี้กำลังจะสิ้นสุด การรบนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย
หลังจากนั้นเราจะได้อยู่ด้วยกัน คนแปลกหน้าจากต่างแดนเอ่ย 
We can live, Together, With out permission, ..... Lover of the War เราจะสามารถอยู่ร่วมกัน โดยไม่ต้องมีข้อผูกมัด(คำขออนุญาต)ใดๆ
คู่รักแห่งสงคราม    

We can live, Together, With out permission, .....Oh............. 
เราจะสามารถอยู่ร่วมกัน โดยไม่ต้องมีข้อผูกมัด(คำขออนุญาต)ใดๆ  
She wake up in the night, Saw the frame behind  
Run and run that she think about, Unfortunately she can’t escape
เธอตื่นขึ้นมากลางดึก แลเห็นแสงไฟและเปลวเพลิงล้อมรอบ
หนีต้องหนีนั้นคือสิ่งที่เธอนึกได้ แต่อนิจาเธอไม่สามารถรอดไฟสงคราม
  So he doesn’t know any thing, Run around to find her
But he’ll got is nothing, Except black bone and smoke
และเค้าผู้ไม่รู้เรื่องอันใด เดินออกตามหาคู่รักของเค้า
แต่สิ่งที่เค้าจะพบนั้นคือพื้นดินเปรี่ยวโล่ง เห็นแต่เถ้ากระดูกและหมอกควัน  Finally, He found the ring, That He gave to her, Her,   ................Lover of the War 
ในท้ายที่สุดแล้ว เค้าพบแหวนที่คุ้นเคย แหวนที่เค้าเคยให้เธอ แหวนของเธอ

LoveroftheWar

White Blank Page (Mumford & Sons) Cover By Jinn
Original By Mumford & Sons

White Blank Page (Mumford & Sons)

ExtendedLive เพลงแรกที่ทำให้คิดทำอัลบั้ม

Lost Extended Live

That's How I Got To Memphis (Short vers.) Cover by JinnAlley TRIO
Original by Tom T Hall

That's How I Got To Memphis ( Tom T Hall )

While my guitar gentry weeps Cover the Beatles By Jinn

Gentry Weeps with my guitar

Full demo of my single that gonna relate next year

Won't Let You Go (full demo)

Demo by Jinn
เรื่องราว ของคน ยุคบีท เจเนอ เรชั่น ฮิปปี้ กัญชา ม่านควัน พระเจ้า ความรัก และคำ สัญญา

This song is about ......
A man in 60's Hippy Who fall and addict in something,marryjane 
this song depend on you guy,It can be
1.Man fall in love w/ girl and she take him to try a Ganja
2.Ganja is like a Woman

MarryJane(กัญชา)  
I under your spell / since i ring(rang)your door bell.
ฉันตกอยู่ใต้มนสะกดของคุณ / ตั้งแต่วินาทีที่ฉันเคาะกระดิ่งบ้านคุณ
Love incubation / In between Weed and Smog
ความรักก่อเกิดขึ้น / ท่ามกลางกลิ่นกัญชาและม่านควัน
I start to roll / Give to you burn on fire
ฉันม้วนมันขึ้น / หยิบยืนให้เธอ ผู้จุดแสงแห่งไฟ
We take our time / In your house just you & me
เราทั้งสองใช้เวลาของเรา / ในบ้านของคุณ แค่เธอและฉัน
Hum(Chorus)(เสียงสวด) We fly to the sky / See the star bright and shine 
เราบินขึ้นไปบนฟ้า / ดูหมู่ดวงดาวที่ประกายแสง
We start next roll / then we see a place of god
เราสานต่อมวนต่อไป / หลังจากนั้นเราก็จักเห็นอนาจักรของพระเจ้า
I swear in front of god / I'll take care you forever
ฉันสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า / ฉันจะคอยดูแลเธอไปตลอดการ
Then hold you in my arm / whisper your ears I Love You
จากนั้นฉันจะกอดเธอไว้ในอ้อมแขน / กระซิบที่ข้างหูเธอ ฉันรักเธอ

Hum - Anything on earth mean nothing when we hold each other 
ในขณะที่ฉันร่วมสังวาศกับเธอทุกๆสิ่งบนโลกนี้ล้วนไม่สำคัญ
Anything mean nothing OH my Marry jane 
ทุกๆสิ่งล้วนไม่มีค่า โอ้แม่ยอดรัก แม่เมรีเจน(มารีจวนน่า)
Anything mean nothing In between WEED And SMOG
ทุกๆสิ่งนั้นไม่สำคัญเมื่อเราอยู่ท่ามกลางกัญชาและกลุ่มควัน

Marry Jane

I Do Believe In Love, I Do Believe In You

Nothing much about us / we founded in 2014 by a broken boy who walked in to  the darkness real world / we're a folk-teller who tell the world about our 3rd world land many thing just begin in these years like 1960's

Jinn

Popular tracks