Soap Opera“Critical Edition”(2013 Vertion)

Late at night(Wind band) - ดึกแล้ว - Modern Dog  (The Famous Five Concert)
http://www.youtube.com/watch?v=arHyeO6kB1U

Late at night(Wind band) - ดึกแล้ว - Modern Dog  (The Famous Five Concert)

- Ratchadamnoen - Vanich Potavanich
- Matthayom Sangkeet Witthaya Symphonic Wind Band

ราชดําเนิน - MatthayomSangkeet

- เพลง : ในหลวงของแผ่นดิน - สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล
- นักร้อง : มัดหมี่ พิมดาว,เอ็ม อรรถพล
- Chorus : BU Chorus
- Performed : (สุวรรณภูมิ) by Matthayom Sangkeet Witthaya Symphonic Wind Band 
- เนื้อร้อง : วิเชียร ตันติพิมลพันธ์
- ทำนอง : สราวุธ เลิศปัญญานุช
- เรียบเรียง : เมธา ยวนเขียว

ในหลวงของแผ่นดิน - มัดหมี่ พิมดาว,เอ็ม อรรถพล

ละครน้ำเน่า

-เพลงศรีอยุธยา
-เพลงแม่งูเอ๋ย

ต้นวรเชษฐ์ Demo - Meta Yuankhiaw

เพลง วันพรุ่งนี้ 
คำร้อง : ประภาส ชลศรานนท์ 
ทำนอง : จักรพัฒน์ เอี่ยมหนุน

เพลง สามัคคีชุมนุม 
คำร้อง : เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (ม.ร.ว. เปีย มาลากุล) 
ทำนอง : Auld Lang Syne 


จำได้ไหม ตายายยังจำได้ไหม
ปู่ย่าจำได้ใช่ไหม สอนหนูอยู่แทบทุกปี
สอนให้เด็กต้องรักกัน มีคำขวัญให้สามัคคี
ให้ทำดี ให้อดออมพากเพียร

จำได้ไหม ป้าลุงยังจำได้ไหม
น้าอาจำได้ใช่ไหม สอนหนูเรื่องประเพณี
สอนให้อย่าทะเลาะกัน ให้แบ่งปันในยามที่มี
ให้คิดดี ให้อภัยเมตตา

*ขอให้เด็กอย่างเราทุกคน ได้มองเห็น 
ว่าบ้านเราเมืองเรานั้นเป็น เช่นคำสอนมา
เห็นผู้ใหญ่ไม่ทะเลาะกัน คิดต่างกันนั้นธรรมดา
เปิดใจรับเปิดใจรู้ พวกหนูอยากเห็น

อยากจะเห็น น้าอามาเดินด้วยกัน
ลุงป้ามาจับมือกัน บ้านเมืองคงไปได้ดี
ถึงแตกต่างกันเท่าไร แต่หัวใจยังสามัคคี
วันพรุ่งนี้ พวกหนูจะก้าวเดินตาม
- - - - - - - - - - - - - ดนตรี - - - - - - - - - - - - 
*ขอให้เด็กอย่างเราทุกคน ได้มองเห็น
ว่าบ้านเราเมืองเรานั้นเป็น เช่นคำสอนมา
เห็นผู้ใหญ่ไม่ทะเลาะกัน คิดต่างกันนั้นธรรมดา
เปิดใจรับเปิดใจรู้ พวกหนูอยากเห็น

อยากจะเห็น น้าอามาเดินด้วยกัน
ลุงป้ามาจับมือกัน บ้านเมืองคงไปได้ดี
ถึงแตกต่างกันเท่าไร แต่หัวใจยังสามัคคี
วันพรุ่งนี้ พวกหนูจะก้าวเดินตาม
พวกเราเหล่ามาชุมนุม
ต่างกุมใจรักสมัครสมาน
ล้วนมิตรจิตชื่นบาน
สราญเริงอยู่ทุกผู้ทุกนาม

วันพรุ่งนี้ คสช

วันพรุ่งนี้ 21/09/57

เพลง วันพรุ่งนี้ 
คำร้อง : ประภาส ชลศรานนท์ 
ทำนอง : จักรพัฒน์ เอี่ยมหนุน

เพลง สามัคคีชุมนุม 
คำร้อง : เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (ม.ร.ว. เปีย มาลากุล) 
ทำนอง : Auld Lang Syne 


วันพรุ่งนี้ คสช 22/09/57

สดุดีออมสิน - Meta Yuankhiaw
-Matthayom Sangkeet Witthaya Symphonic Wind Band-

สดุดีออมสิน - Matthayom Sangkeet Witthaya Symphonic Wind Band

- เพลงค่านิยม12ประการ (12 core values of Thais)
- Arranged by Metha Yuan-khiaw
- Record by Sarasas Witaed Saimai School

เพลงค่านิยม12ประการ (12 core values of Thais) - Metha Yuan-khiaw

 #The_Princess_Royal_of_Siam
 ส้มตำ
       
       “ส้มตำ” เป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงพระราชนิพนธ์ทั้งเนื้อร้องและทำนองขึ้นใน ปี พ.ศ. 2513 โดยมี “อ.ประยงค์ ชื่นเย็น” เป็นผู้เรียบเรียงดนตรี
       
       เพลงพระราชนิพนธ์“ส้มตำ” เป็นเพลงลูกทุ่ง บรรเลงครั้งแรกโดยวง อ.ส. วันศุกร์ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงขับร้องด้วยพระองค์เอง ต่อมามีผู้ขอพระราชทานนำเพลงนี้ไปประกอบภาพยนตร์เรื่อง “ส้มตำ” (พ.ศ. 2516) ในแนวบู๊ นำแสดงโดย “สมบัติ เมทะนี” โดยมี“บุปผา สายชล” เป็นผู้อันเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ส้มตำมาขับร้อง
       
       นอกจากนี้ยังมีการนำเพลงส้มตำมาใส่ทำนองเพลงมาร์ช และให้มีการขับร้องหมู่ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ร่วมขับร้องนั้นมีพระเอกสมบัติ เมทะนีรวมอยู่ด้วย
       
       ต่อมาเพลงพระราชนิพนธ์ส้มตำได้ถูกอัญเชิญมาขับร้องโดย“พุ่มพวง ดวงจันทร์” ราชินีเพลงลูกทุ่งไทยในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 ซึ่งก็ทำให้เพลงนี้เป็นที่รู้จักกว้างขวาง ก่อนที่จะถูกนำมาขับร้องบันทึกเสียงโดย “สุนารี ราชสีมา” ที่เป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นอมตะของบทเพลงพระราชนิพนธ์ส้มตำเพลงนี้ นอกจากนี้ทางวงคาราบาวก็เคยอันเชิญเพลงส้มตำไปร้องในคอนเสิร์ตอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงต่าย อรทัย ที่ก็มีการอัญเชิญเพลงนี้มาขับร้องด้วย 

“ส้มตำ”...บทเพลงพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพฯ ที่คนไทยคุ้นเคย/บอน บอระเพ็ด 
ส้มตำอาหารประจำชาติไทยที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2513

        สำหรับบทเพลงพระราชนิพนธ์ส้มตำในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มีเนื้อร้องดังนี้
       
       เพลงส้มตำ 
       เนื้อร้อง พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
       ทำนอง พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
       เรียบเรียง ประยงค์ ชื่นเย็น
       
            ต่อไปนี้จะเล่า              ถึงอาหารอร่อย
       คือส้มตำกินบ่อย                รสชาติแซบดี
       วิธีการก็ง่าย                     จะกล่าวได้ดังนี้
       มันเป็นวิธี                       พิเศษเหลือหลาย
       
            ไปซื้อมะละกอ             ขนาดพอเหมาะเหมาะ
       สับสับเฉาะเฉาะ                ไม่ต้องมากมาย
       ตำพริกกับกระเทียม            ยอดเยี่ยมกลิ่นอาย
       มะนาวน้ำปลาน้ำตาลทราย    น้ำตาลปีปถ้ามี
       
            ปรุงรสให้แน่หนอ       ใส่มะละกอลงไป
       อ้อ อย่าลืมใส่                  กุ้งแห้งป่นของดี
       มะเขือเทศเร็วเข้า             ถั่วฝักยาวเร็วรี่
       เสร็จสรรพแล้วซี              ยกออกจากครัว
       
            กินกับข้าวเหนียว         เที่ยวแจกให้ทั่ว
       กลิ่นหอมยวนยั่ว               น่าน้ำลายไหล
       จดตำราจำ                    ส้มตำลาวเอาตำรามา
       ใครหม่ำเกินอัตรา             ระวังท้องจะพัง
       
            ขอแถมอีกนิด            แล้วจะติดใจใหญ่
       ไก่ย่างด้วยเป็นไร             อร่อยแน่จริงเอย...
       
       และนี่ก็คือบทเพลงพระราชนิพนธ์ส้มตำในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯที่คนไทยเราคุ้นเคยและคุ้นหูกันเป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับ“ส้มตำ”อาหารพื้นบ้านอีสานรสแซ่บ วันนี้ไม่เพียงเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติไทยเท่านั้น แต่ยังถือเป็นเมนูไทยในระดับโลกอีกด้ว

อ้างอิง...
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000037237

ส้มตำ (Demo)

"Senior Composition Recital by Metha Yuankhiaw Performed by Kasetsart University Wind Symphony (KU Wind)"

Tipsy (2558)
	บทเพลง Tipsy เป็นบทเพลงสำหรับวง Clarinet quartet ประกอบด้วยเครื่องดนตรี ได้แก่ 2 Bb Clarinet, 1 Bb Bass Clarinet
บทเพลงนี้เป็นการนำเอา A harmonic minor scale มาเสนอโน้ตทีละตัวในต้นเพลง และนำไปพัฒนาทำให้ทำนองมีความหลากหลาย และมีความน่าใจมากขึ้น 

Rakha (ราคะ)  (2559)
	บทเพลง Rakha(ราคะ) เป็นบทเพลงสำหรับวง Brass sextet ประกอบด้วยเครื่องดนตรี ได้แก่ 2 Trumpets, 1 French horn, 1 Trombone, 1 Euphonium, 1 Tuba บทเพลงนี้ผู้ประพันธ์ได้แรงบันดาลใจมากจากการได้อ่านบทความหนึ่งที่ชื่อว่า “พระโพธิสัตว์เรียนรู้โทษของราคะ” บทเพลงนี้มี 3 ส่วนหลัก ได้แก่  	ส่วนที่ 1 เริ่มต้นด้วยเสียง French horn นำเสนอส่วนประกอบหลักที่สำคัญของบทเพลง ได้แก่โน้ต 12 ห้องแรก โดยจะได้ยินส่วนประกอบนี้ทั้ง 3 ส่วนของบทเพลง  	ในส่วนที่ 2 ทำนองจะกว้างขึ้นโดยจังหวะจะมีความเร็วเท่าเดิม ผู้ประพันธ์นำเสนอโดยการใช้โน้ต 4 ตัวประกอบด้วยโน้ต F A Db Eb นำมาขยายให้ทำนองในน่าสนใจมากขึ้น  	ส่วนสุดท้ายส่วนที่ 3 ผู้ประพันธ์นำทำนองแรกกลับมาพัฒนาและมีการใช้ Chromatic scale ที่ขนานคู่ 4 มากขึ้นในท่อนนี้

	ราคะ แปลว่า ความกำหนัดยินดี, ความพอใจ, ความติดใจ จริต แปลว่า ความประพฤติ, พฤติกรรมปกติ หมายถึงความประพฤติที่ติดต่อสืบเนื่องมานานจนเป็นเรื่องปกติของผู้นั้น ใช้ว่า จริยา ก็ได้
	ราคะ หรือ ราคจริต หมายถึงพฤติกรรมของคนที่มีราคะเป็นปกติ คือรักสวยรักงาม มีกิริยาคือ ยืน เดิน นั่ง นอน เป็นต้นที่เรียบร้อย นิ่มนวล ชอบสะอาด ทำกิจต่างๆ ไม่รีบร้อน ชอบกินของที่บรรจงจัด ชอบของหวาน มีอารมณ์สุนทรีย์ ดูอะไรก็ดูนาน ละเอียดพิเคราะห์ อุปนิสัยเป็นคนเจ้าเล่ห์ ถือตัว แง่งอน ชอบอวด ชอบยอ อยากได้หน้า ราคจิตแก้ได้ด้วยการพิจารณากายคตาสติ หรือ อสุภกรรมฐาน 

อ้างอิง 
	พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548.)


in remembrance (2560)
	บทเพลง in remembrance เป็นผลงานที่ประพันธ์ขึ้นมาใหม่เพื่อ “โครงการจัดทำหนังสือรวมผลงานสร้างสรรค์สหวิทยาการ คณะมนุษยศาสตร์ถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช” โดยกล่าวถึงความอาลัย การน้อมรำลึก และการเทิดพระเกียรติคุณที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยผู้ประพันธ์แบ่งทำนองออกใหญ่ ๆ เป็น 3 ทำนอง ได้แก่

	ทำนองที่ 1 ผู้ประพันธ์แสดงออกถึงความอาลัย โดยมีการนำตัวโน้ตในทำนองตอนต้นของเพลงพระราชนิพนธ์แสงเทียน ที่มีคำร้องว่า “จุดเทียนบวงสรวงปวงเทพเจ้า” มาเรียบเรียงขึ้นใหม่ เพราะผู้ประพันธ์รู้สึกถึงทำนองที่มีความไพเราะและมีความเศร้าแอบแฝงอยู่ จึงซาบซึ้งกับเนื้อร้องและทำนองที่เข้ากันอย่างดี จึงนำมาเรียบเรียงขึ้นใหม่เพื่อใช้เป็นทำนองตอนต้นของบทเพลง in remembrance  

	ทำนองที่ 2 ผู้ประพันธ์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการที่ได้ไปกราบสักการะพระบรมศพฯ เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในทำนองนี้จะรู้สึกถึงการน้อมรำลึกแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นการมาก

	ทำนองที่ 3 ผู้ประพันธ์แสดงออกถึงการเทิดพระเกียรติคุณแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนำทำนองบางส่วนของเพลงสดุดีมหาราชากับเพลงสรรเสริญพระบารมีมาเรียงร้อยต่อกันโดยดัดแปลงตัวโน้ตบางตัวเพื่อทำให้ทำนองเข้ากับรูปแบบของการประพันธ์ ต่อมาผู้ประพันธ์ได้นำทำนองตอนต้นของเพลงสดุดีมหาราชา ที่มีคำร้องว่า “ขอเดชะองค์พระประมุขภูมิพล” มาเป็นสื่อกลางแทนความรู้สึกของผู้ฟังที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มานำเสนอไว้ตอนท้ายของเพลง in remembrance เพื่อให้ทำนองนี้อยู่ในความทรงจำของผู้ฟังทุก ๆ ท่านตลอดไป

Metha Yuan-khiaw

Popular tracks