Slowly (ชนบทนิยม)
Songwriter -- Ananta

*เค้าเรียกเราว่า Slowly
เค้าเรียกเราว่า Slow
เห็นพวกเราเย็นชา
เดินก้มหน้าก้มตา
อยู่ในเมืองไม่สบาย
สับสนและวุ่นวาย
สับสนและวุ่นวาย
สับสนและวุ่นวาย

**S l o w l y
     S l o w l y
     S l o w l y
     S l o w l y

นาฬิกาไขลาน
เดินด้วยแรงของเรา
นาฬิกาใส่ถ่าน
ใช้ถ่านหมดก็หมดไฟ
อยู่ที่เราเลือกเดิน
หรือเดินช้าๆแบบพวกเรา
หรือเดินช้าๆแบบพวกเรา
หรือเดินช้าๆแบบพวกเรา

(**)

***  รักธรรมชาติ
        ชนบทนิยม
        รักธรรมชาติ
        ชนบทนิยม

(**)(***)

Slowly Song(ชนบทนิยม)

ออกเดินเท้าเดินทางไปกันสองคนเรา ก้าวด้วยฝันไปด้วยใจใกลตาใกล้ใจเรา โอ้หนุ่มสาวมีแรงบรรดาลใจก็เดินไป โอ้ความฝันความจริงอยู่ห่างออกไปไม่ใกล #อยากไปลอง จะออกไปลองๆๆ เธออยากไปลอง เธอก็ไปลองดู ฉันจะพาเธอไปใกลเที่ยวอุทยาน อยู่กันนานนานสองเราและขุนเขาอีกมากมาย ความสุขล้นกายใจเกินเธอจะใฝ่ฝัน แค่ออกไปเปิดแรงบรรดาลใจหาสิ่งใหม่#

หนุ่ม-สาว

This is Ai generated but before you judge I still pour my heart and emotions into every piece

Paper Wings

Ghost Notes is a soundtrack for the unspoken; the quiet echoes of love, loss, and everything in between. Through each track, it unravels the pieces left behind: the moments of clarity, the weight of old scars, the rush of falling too fast, and the ache of wanting someone who isn’t truly yours. At its heart, this album is about rediscovery; learning to love yourself again, owning your flaws, and finding beauty in the truths we usually leave unsaid. With music crafted to give voice to the feelings we all know but rarely express, Ghost Notes speaks in the language of the heart. S/o to my boy Brandon for helping in the creative process on this. Love y'all❤️

Let Me Know

ฝนตกแดดออก

ขอบคุณ https://soundcloud.com/kwangwara-ll ที่ช่วยทำเน้อ
ต้นฉบับ https://www.youtube.com/watch?v=zK1Sn2qNdEQ

เพลงแรก

ที่เดิม Ep.1 ชญานนท์  เจริญสุข

Recording by Bajang Studio 
Photo by Chanin

หากความนึกถึงทำให้เราคิดถึง Demo

เพลง :   ชีวิต(Life)
คำร้อง : ณัฐธีร์ วิชชุเกรียงไกร(ธีร์)
ทำนอง : Jinta

เอ่อ เอ๋ย ลมเจ้าเอยพัดปีก บิน
เจ้าผกผินตามแรง ลม ลมเจ้าเอย ที่เกิด
(จิตเราเหมือนสิ่งที่ฟุ้งไปเรื่อยๆ เหมือนนกที่บินไปไม่รู้จบ อยู่ในห้วงภวังค์นึง)

สุขใดล้น เสรีเจ้า ยังส่องแสง
และชแม้งคอยดูเงา เอย เงาเจ้า เกิด
(และธรรมชาติของมันที่โหยหาความสุข จึงทำให้ทุกครั้งที่จิตกระทบแสง ต่างเกิดเงาขึ้นตามตัว และนี่คือที่มาของการเกิด)

เจ้านี้ ที่ตื่นมา
สุดแต่หา คำยินดี
สุขขี ทุกนาที แด่การเกิด
(เมื่อเริ่มต้น เราเกิดมาเป็นมนุษย์ ผู้คนต่างยินดีให้กับการเกิด บ้างเต้นรำ บ้างมีน้ำตาปิติ แห่งความสุข)

เก็บดอกไม้ ที่ริมทาง
ปลูกไว้ ที่กายหยาบ
สิ่งไหน ใจเอย ได้ใฝ่หา
(เราได้อยู่อาศัยในฐานะมนุษย์ ตามหา เก็บดอกไม้ ความงามริมทางมาประดับจิตของเรา และใฝ่หาความสุขไปเรื่อยๆ)

เกิดมาแล้ว เจ้านี้ จึงมีอยู่
อยู่ในนี้ เจ้ามี จึงเกิด
(และเราต่างเข้าใจว่านั่นคือเหตุที่เราเกิดขึ้นมา เราแน่ใจว่าสิ่งที่รอเราอยู่ คือความสุขในวิถีชีวิตนี้)

ดอกไม้ ที่ปลายดาบ
ชื่อเสียง เจ้าเคียงมั่น 
ความหวัง ตั้งแต่รอ เจ้าเกิด
(แต่สุดท้าย เราก็ต้องใช้ดาบเราฟาดฟันดอกไม้ที่เราเก็บมาทิ้ง ด้วยชื่อเสียง และความคาดหวัง ของระบบสังคม และ ความฝันของผู้ให้กำเนิด ที่เราต้องสืบทอดต่อไป ในฐานะ มนุษย์ 1 คน ผู้สืบเผ่าพันธุ์)

อัตตานี้ นั้นมี ก่อนเจ้าเกิด
อยู่ในนั้น เจ้ามี จึงเกิด
(นั่นคือที่มาของอัตตา เราไม่ได้สร้างอัตตาขึ้นเอง อัตตามีตั้งแต่ก่อนเราจะมาเกิด อัตตาเกิดตั้งแต่ความคาดหวังของผู้ให้กำเนิดเราแล้ว ที่อยากให้เราเกิดเป็นใคร ทำอะไร ความสุขในช่วงต้น มันจึงเหมือนเป็นแค่ของลมๆ แร้งๆ ในชีวิตจริง)

(ดนตรี)

โอ้ว โอ้ว ลมเจ้าเอยพากลับรัง 
จากพันเถาเอย สู่ก้าน 
(ในบั้นปลาย เมื่อเราลาโลกนี้ กระแสกรรม ที่เหมือนลม ที่จะพัดเรากลับไปที่แห่งเดิมของจิตเรา ชีวิตที่ผ่านมา จึงเหมือนต้นไม้ ที่เติบโตจากราก ไปสู่ลำต้น และกิ่งก้านที่ใหญ่โต)

สิ้นความงาม ยามคืนถิ่น
โอ้ว โอว โอ่ว โอว
(และการตายของต้นไม้ สิ้นสุดความงามของชีวิตหนึ่ง คือการกลับคืนถิ่นของจิตวิญญาณมนุษย์ ในฐานะประชากร จิต ดวงนึงของห้วงถวังค์)

แค่อยากให้รู้ โลกนี้ ยังมีอยู่
อยู่ที่ไหน ความงาม เจ้าอยู่
(สุดท้ายนี้ ทิ้งคำถามเอาไว้ นิยามของความงามชีวิต ที่เราหาคืออะไร แล้วเรากำลังหาความงาม ที่เราต่างไม่เข้าใจนั้น..)

อยากให้รู้ โลกนี้ ยังมีอยู่
อยู่ที่ไหน ความงาม เจ้าอยู่ อยู่ไหน ?
(ความงาม ยามสุดท้ายที่เราไม่ได้คำตอบ ก็จะเป็นเพียงคำถามที่ไม่มีคำตอบ ไปจนวินาทีสุดท้าย ใช่ หรือ ไม่ ?)

Demo Jinta [ชีวิต] 18 - 02 - 63 Tempo 74

หลายครั้ง ที่มองฟ้าไกล
เรื่องราวที่เราเข้าใจ เกิดเป็นคำถาม
ขับขาน ทำนองแสนไกล อดีตและความคิดลอยไปไกล สุดขอบฟ้า

ว่าความรัก ก็เหมือนท้องฟ้าที่ว่างเปล่า
ช่างสวยงามและงดงามกว้างใหญ่สุดสายตา
แต่กี่ครั้ง ที่ฉันได้ปรับสายตาเพื่อมองไป
ตัวฉันก็เข้าใจ ในสิ่งที่สายไป

ฉันเอนกาย ลงบนพื้นดิน และทอดสายตายาวไปบนนั้น สุดขอบฟ้า
รอยยิ้มสุดขอบสายตา ต่างคนต่างลองคิดไป ไกลเกินจะตามหา

หลายครั้งยิ่งมองฟ้าไกล เรื่องราวที่เราเข้าใจ เกิดเป็นคำถาม
หลายครั้งที่มองฟ้าไกล ยิ่งมองยิ่งต้องเสียใจ ใครเลยจะรู้ คำตอบ

ณ ธีร์ - มองฟ้าด้วยตาเปล่า (demo)

ธีร์ (INTP-T)
Thai Indy Artist : JINTA , Kanitha , na t.
.
III กลับมาเล่นทวิตแล้ว จะพยายามไม่บ่น แล้วเอาเวลาไปทำเพลง